น้ำมันอัมลาทำโดยการตากแห้งและแช่ในน้ำมันพื้นฐาน เช่น น้ำมันแร่ มีการปลูกในประเทศเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เช่น อินเดีย จีน ปากีสถาน อุซเบกิสถาน ศรีลังกา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
มีการกล่าวกันว่าน้ำมัน Amla ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและป้องกันผมร่วง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงพอที่จะสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้ โดยทั่วไปแล้วน้ำมัน Amla จะถูกทาลงบนหนังศีรษะโดยตรงหรือรับประทาน
การใช้ประโยชน์จากน้ำมัน Amla
การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรพิจารณาเป็นรายบุคคลและผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เช่น นักโภชนาการ เภสัชกร หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่ได้รับการรับรอง ไม่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษา บำบัด หรือป้องกันโรค
การวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำมันมะขามป้อมยังมีจำกัด แม้ว่าผลมะขามป้อมจะได้รับการศึกษาทั้งในห้องปฏิบัติการและในสัตว์ทดลองสำหรับภาวะสุขภาพบางประการ ซึ่งรวมถึงโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มอาการเมตาบอลิก (กลุ่มโรคที่อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน) โรคมะเร็ง และโรคระบบทางเดินอาหาร รวมถึงคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านจุลชีพ (ทำลายการเจริญเติบโตของแบคทีเรียหรือไวรัส) แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนการใช้น้ำมันมะขามป้อมสำหรับภาวะเหล่านี้ เนื่องจากยังขาดการวิจัยในมนุษย์1 จึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
ผมร่วง
ภาวะผมร่วงจากกรรมพันธุ์ (androgenic alopecia) มีลักษณะเฉพาะคือผมร่วงทีละน้อยตั้งแต่บริเวณด้านบนและด้านหน้าของหนังศีรษะ แม้ว่าภาวะนี้มักถูกเรียกว่าภาวะผมร่วงแบบผู้ชาย แต่ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกเพศทุกวัย
น้ำมันอัมลาถูกนำมาใช้ในการแพทย์อายุรเวท (การแพทย์ทางเลือกซึ่งเป็นระบบการแพทย์แผนโบราณของอินเดีย) มานานหลายศตวรรษ เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมและส่งเสริมสุขภาพหนังศีรษะให้แข็งแรง1 อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้น้ำมันอัมลาในการดูแลเส้นผมยังมีอยู่อย่างจำกัด มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่าน้ำมันอัมลาอาจช่วยบรรเทาอาการผมร่วงได้ แต่งานวิจัยเหล่านี้ส่วนใหญ่ดำเนินการในห้องปฏิบัติการ ไม่ได้ดำเนินการในประชากรมนุษย์
น้ำมัน Amla มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
น้ำมันมะขามป้อมยังไม่ได้รับการวิจัยอย่างละเอียด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงในบางราย ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าน้ำมันมะขามป้อมมีผลข้างเคียงจากยาอื่นๆ ที่รับประทานหรือทาลงบนผิวหนังหรือไม่
เนื่องจากขาดการวิจัย จึงยังมีข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้น้ำมันมะขามป้อมในระยะสั้นหรือระยะยาวน้อยมาก ควรหยุดใช้และติดต่อผู้ให้บริการด้านสุขภาพหากพบผลข้างเคียงใดๆ
เวลาโพสต์: 11 พ.ย. 2566