ต้นไมร์เทิล น้ำมันหอมระเหย
บางทีหลายคนอาจไม่เคยรู้ต้นไมร์เทิลน้ำมันหอมระเหยอย่างละเอียด วันนี้ผมจะพาคุณไปทำความเข้าใจต้นไมร์เทิลน้ำมันหอมระเหยจากสี่ด้าน
การแนะนำของ Myrtle น้ำมันหอมระเหย
เมอร์เทิลมีกลิ่นหอมของการบูรที่ซึมซาบเข้าสู่ผิว น้ำมันนี้สามารถช่วยเสริมสร้างระบบทางเดินหายใจให้แข็งแรงและผ่อนคลายมากกว่ายูคาลิปตัส ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้น ใช้เป็นน้ำมันนวดหน้าอก กระจายกลิ่น หรือสูดดมเพื่อบรรเทาอาการคัดจมูก ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเมอร์เทิล ทำให้เป็นหนึ่งในน้ำมันหอมระเหยที่ดีที่สุดสำหรับเด็กที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ สรรพคุณในการระงับประสาทช่วยให้จิตใจสงบ บรรเทาความวิตกกังวล และส่งเสริมการนอนหลับพักผ่อน เมอร์เทิลยังสามารถนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อปรับสมดุลผิวมัน และเป็นโทนเนอร์เพื่อลดเลือนริ้วรอย เมอร์เทิลยังสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์ปรับอากาศดับกลิ่นซึ่งช่วยเพิ่มพลังในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
ต้นไมร์เทิล น้ำมันหอมระเหย ผลs & ผลประโยชน์
- คุณสมบัติฝาดสมาน
หากใช้ในน้ำยาบ้วนปาก น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลจะทำให้เหงือกหดตัวและยึดเกาะฟันได้ดีขึ้น หากรับประทานเข้าไป จะทำให้ลำไส้และกล้ามเนื้อหดตัวด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยกระชับผิวและช่วยลดเลือนริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยป้องกันเลือดออกโดยกระตุ้นให้หลอดเลือดหดตัว
- ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
น้ำมันหอมระเหยจากดอกเมอร์เทิลช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ สามารถนำไปใช้ในธูปหอม เตาเผา รมควัน และเครื่องพ่นไอน้ำเพื่อปรับอากาศภายในห้องได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือน้ำหอมได้อีกด้วย ไม่มีผลข้างเคียง เช่น อาการคัน ระคายเคือง หรือเป็นผื่นคันตามผิวหนังเหมือนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายบางยี่ห้อ
- ป้องกันการติดเชื้อ
คุณสมบัตินี้ทำให้น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลเป็นสารที่เหมาะสมในการทาแผล ช่วยป้องกันการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ในแผล และป้องกันการติดเชื้อในกระแสเลือดและบาดทะยัก ในกรณีที่มีวัตถุเหล็กเป็นสาเหตุของความเสียหาย
- ยาขับเสมหะ
คุณสมบัติของน้ำมันเมอร์เทิลนี้ช่วยลดการสะสมและการสะสมของเสมหะ นอกจากนี้ยังช่วยขจัดอาการคัดจมูก หลอดลม และปอดอันเนื่องมาจากหวัด และบรรเทาอาการไอได้เป็นอย่างดี
- บำรุงระบบประสาทให้แข็งแรง
ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบประสาทและป้องกันไม่ให้คุณเกิดความกังวลหรือความเครียดโดยไม่จำเป็นกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มีประโยชน์ต่ออาการผิดปกติทางระบบประสาทและโรคประสาท อาการสั่นแขนขา ความกลัว อาการวิงเวียนศีรษะ ความวิตกกังวล และความเครียด
- ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลช่วยผ่อนคลายและสงบประสาท คุณสมบัตินี้ยังช่วยบรรเทาความตึงเครียด ความกดดัน ความรำคาญ ความโกรธ ความทุกข์ และภาวะซึมเศร้า รวมถึงอาการอักเสบ ระคายเคือง และอาการแพ้ต่างๆ
- ยาปลุกอารมณ์ทางเพศ
ช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ เช่น อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ความเย็นชา การแข็งตัวของอวัยวะเพศ และการสูญเสียความต้องการทางเพศได้เป็นอย่างดี
- ช่วยให้หายใจสะดวก
คุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลนี้ช่วยลดการสะสมของเสมหะและน้ำมูกในทางเดินหายใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดการสร้างเสมหะและบรรเทาอาการไอและหายใจลำบากอีกด้วย
- ต่อสู้กับการติดเชื้อ
น้ำมันหอมระเหยจากเมอร์เทิลช่วยยับยั้งการติดเชื้อ เนื่องจากเป็นสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา และไวรัส นอกจากนี้ยังช่วยลดการติดเชื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ พร้อมช่วยบรรเทาอาการท้องเสียอีกด้วย
Ji-บริษัท อัน จงเซียง เนเชอรัล แพลนท์ส จำกัด
การใช้น้ำมันหอมระเหยจากต้นไมร์เทิล
ล.ผิว:
สรรพคุณฝาดสมานของเมอร์เทิลทำให้มีประโยชน์ในการดูแลผิวสำหรับผิวมัน รูขุมขนกว้าง สิว และผิวที่แก่ก่อนวัย นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นยาขี้ผึ้งรักษาริดสีดวงทวารได้อีกด้วย
ล.จิตใจ:
ในทางจิตวิทยา น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลมีฤทธิ์ในการชำระล้าง ชำระล้าง และปกป้องร่างกาย และยังมีประโยชน์ต่อพฤติกรรมเสพติด ทำลายตนเอง และย้ำคิดย้ำทำอีกด้วย
ล.ร่างกาย:
แนะนำให้ใช้ไมร์เทิลเป็นพิเศษสำหรับปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ น้ำมูกไหล และอาการไอ มีประโยชน์อย่างยิ่งในห้องนอนเด็กตอนกลางคืน (ในเตาเผาน้ำมันที่วางไว้อย่างปลอดภัย) เพื่อช่วยบรรเทาอาการไอระคายเคืองตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ล้างท่อปัสสาวะเพื่อช่วยรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย
เกี่ยวกับ
น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลสกัดได้จากดอก ใบ และลำต้นของต้นเมอร์เทิล ซึ่งในโลกพฤกษศาสตร์เรียกว่า Myrtus Communis เมอร์เทิลเป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับการยกย่องว่ามีสรรพคุณทางยา น้ำมันหอมระเหยจากต้นเมอร์เทิลมีรสหวาน สดชื่น สีเขียว และมีกลิ่นการบูรเล็กน้อย
ข้อควรระวัง: น้ำมันนี้อาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิด และอาจก่อมะเร็งได้เนื่องจากมีส่วนผสมของเอสตราโกลและเมทิลยูจีนอล ห้ามใช้น้ำมันหอมระเหยที่ไม่เจือจางกับดวงตาหรือเยื่อเมือก ห้ามรับประทานเว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเก็บให้ห่างจากเด็ก
เวลาโพสต์: 20 ม.ค. 2567