เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับส่วนผสม
เฮเซลนัทมาจากต้นเฮเซล (Corylus) และเรียกอีกอย่างว่า "ถั่วค็อบนัท" หรือ "ถั่วฟิลเบิร์ต" ต้นไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในซีกโลกเหนือ มีใบโค้งมน ขอบหยัก และมีดอกสีเหลืองอ่อนหรือแดงขนาดเล็กมากที่บานในฤดูใบไม้ผลิ
ถั่วเฮเซลนัทเติบโตบนต้นเป็นเปลือก แล้วร่วงหล่นเมื่อสุกงอม ประมาณ 7-8 เดือนหลังการผสมเกสร เมล็ดสามารถรับประทานได้หลายวิธี ทั้งแบบดิบ คั่ว บด หั่น บดเป็นผง หรือบดเป็นเนื้อครีม เฮเซลนัทใช้ทำพราลีน เหล้าฟรานเจลิโก เนยเฮเซลนัท และเนื้อครีม (เช่น นูเทลลา) และมักนำไปใส่ในขนมและทรัฟเฟิล น้ำมันเฮเซลนัทยังใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วย
ประโยชน์ต่อสุขภาพภายในของเฮเซลนัท
โดยทั่วไปถั่วถือว่าดีต่อสุขภาพเพราะมีไขมันธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฮเซลนัทเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินอี และบีที่ดี รวมถึงไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “กรดโอเลอิก” ซึ่งเชื่อว่าช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งใยอาหารที่ดี ซึ่งส่งเสริมการย่อยอาหารที่ดี และให้โฟเลตประมาณหนึ่งในสามของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันในหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสตรีวัยเจริญพันธุ์
น้ำมันเฮเซลนัทมีวิตามินอีสูง จึงเหม็นหืนช้า เนื่องจากวิตามินอีช่วยรักษาคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระไว้ น้ำมันเฮเซลนัทมีฟลาโวนอยด์สูง ซึ่งเป็นส่วนประกอบจากธรรมชาติจากพืชที่มีประโยชน์ในการปกป้อง งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ ระบุว่า ผู้เข้าร่วมการศึกษาที่รับประทานเฮเซลนัท วอลนัท และอัลมอนด์มากกว่า 1 ออนซ์ต่อวัน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองลดลง 30 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ของน้ำมันเฮเซลนัทต่อผิว
น้ำมันเฮเซลนัทถูกนำมาใช้เพื่อผิวมันและลดขนาดรูขุมขนด้วยคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว อุดมไปด้วยคาเทชินและแทนนิน (ฟลาโวนอยด์ที่ดีต่อสุขภาพ) ทำให้น้ำมันชนิดนี้เป็นน้ำมัน “แห้ง” ให้ความรู้สึกเรียบเนียนและกระชับผิว คุณสมบัติของน้ำมันเฮเซลนัทช่วยปรับสมดุลความมันและทำให้รูขุมขนดูเล็กลง
ผลประโยชน์อื่น ๆ ได้แก่:
เติมความชุ่มชื้น:แม้ว่าน้ำมันจะช่วยดูดซับและปรับสมดุลความมัน แต่ก็ยังมีไขมันธรรมชาติจำนวนมากที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มเนียน อิ่มเอิบ พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่กลับไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเลย
การปกป้องสารต้านอนุมูลอิสระ:การทาสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันเฮเซลนัท จะช่วยปกป้องผิวของคุณจากความเครียดจากสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
การคงสี:เฮเซลนัทถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหลายชนิดเพื่อช่วยรักษาสีผมให้ติดทนนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ น้ำมันเฮเซลนัทยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและปรับสภาพเส้นผมให้แข็งแรงขึ้น ช่วยให้ผมฟื้นตัวจากการทำเคมีได้
อ่อนโยน:เฮเซลนัทเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากเป็นน้ำมันที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ฟื้นฟู:ด้วยสารอาหาร ฟลาโวนอยด์ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เฮเซลนัทจึงสามารถฟื้นฟูผิวของคุณให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ การใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวามากขึ้น
เวลาโพสต์: 1 มี.ค. 2567