น้ำมันเมล็ดองุ่นคืออะไร?
คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำมันหลายชนิดที่คุณใช้ประกอบอาหารนั้นสามารถนำมาทาผิวได้เช่นกัน เช่น ช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง ผิวไหม้จากแสงแดด และรูขุมขนอุดตัน น้ำมันเมล็ดองุ่นก็เป็นน้ำมันชนิดหนึ่งเช่นกัน
ทำไมน้ำมันเมล็ดองุ่นจึงดีต่อผิวของคุณ? น้ำมันเมล็ดองุ่นอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (หรือที่เรียกว่า PUFAs) ซึ่งช่วยต่อต้านการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น รวมถึงวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ต่อผิวหนัง
1. ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและลดความแห้งกร้าน
ผิวแห้งเป็นปัญหาที่พบบ่อยทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น การใช้น้ำร้อน สบู่ ผงซักฟอก และสารระคายเคือง เช่น น้ำหอม สีย้อม ฯลฯ บ่อยครั้ง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจดึงน้ำมันธรรมชาติออกจากผิวชั้นบนและทำให้เกิดการรบกวนปริมาณน้ำในผิว ส่งผลให้เกิดอาการแห้งและสูญเสียความยืดหยุ่น รวมถึงอาการคันและแพ้ง่าย
น้ำมันเมล็ดองุ่นเทียบกับน้ำมันมะกอกสำหรับผิวแห้ง — แบบไหนดีกว่ากัน? ทั้งสองอย่างนี้พบได้ในมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวจากธรรมชาติ/สมุนไพรหลายชนิด เพราะให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันและผู้คนที่มีสภาพผิวแตกต่างกันก็สามารถยอมรับได้ดี
อย่างไรก็ตาม บางคนพบว่าน้ำมันเมล็ดองุ่นมีประโยชน์เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก แต่ดูดซึมได้ดีกว่า ทิ้งคราบมันไว้น้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีสูงกว่า ซึ่งหมายความว่าอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผู้ที่เป็นสิวง่าย เนื่องจากมีโอกาสทิ้งความมันหรืออุดตันรูขุมขนน้อยกว่า
2. อาจช่วยต่อสู้กับสิว
น้ำมันเมล็ดองุ่นมีคุณสมบัติต้านจุลชีพอ่อนๆ หมายความว่าช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดรูขุมขนอุดตันและสิว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอลิก กรดไขมัน และวิตามินอี ซึ่งอาจช่วยสมานแผลเป็นหรือรอยต่างๆ จากสิวได้
เนื่องจากไม่ใช่น้ำมันเนื้อหนักและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย จึงปลอดภัยแม้ใช้ในปริมาณเล็กน้อยกับผิวมัน หากต้องการประสิทธิภาพในการต่อต้านสิวที่เข้มข้นยิ่งขึ้น สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ เช่น น้ำมันทีทรี น้ำกุหลาบ และวิชฮาเซล
3. ช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดด
น้ำมันเมล็ดองุ่นดีต่อผิวหน้าของคุณหรือไม่หากคุณมีผิวไหม้แดด? ใช่ เพราะน้ำมันเมล็ดองุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินอี โพรแอนโทไซยานิดิน ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ กรดฟีนอลิก แทนนิน และสติลบีน จึงอาจมีฤทธิ์ต้านริ้วรอยและต้านการอักเสบ ยกตัวอย่างเช่น วิตามินอีมีส่วนช่วยในสรรพคุณของน้ำมันชนิดนี้ เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยปกป้องเซลล์ผิว
เนื่องจากน้ำมันเมล็ดองุ่นมีคุณสมบัติช่วยป้องกันความเครียดจากออกซิเดชัน การใช้น้ำมันเมล็ดองุ่นจึงสามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของผิวและลดสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ของการแก่ก่อนวัย เช่น การสูญเสียความยืดหยุ่นและจุดด่างดำ
แม้ว่าไม่ควรใช้แทนครีมกันแดดทั่วไป แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าน้ำมันพืช เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่นและน้ำมันมะพร้าวสามารถปกป้องผิวจากรังสี UV จากดวงอาทิตย์ได้
4. อาจช่วยสนับสนุนการรักษาบาดแผล
แม้ว่างานวิจัยส่วนใหญ่ที่ศึกษาผลของน้ำมันเมล็ดองุ่นต่อการรักษาบาดแผลจะจัดทำขึ้นในห้องปฏิบัติการหรือในสัตว์ แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ว่าเมื่อใช้ทาภายนอกจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น กลไกหนึ่งที่น้ำมันเมล็ดองุ่นออกฤทธิ์คือการกระตุ้นการสังเคราะห์ปัจจัยการเจริญเติบโตของหลอดเลือด (vascular endothelial growth factor) ซึ่งสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในบาดแผลได้
6. สามารถใช้เป็นน้ำมันนวดหรือน้ำมันพาหะได้
น้ำมันเมล็ดองุ่นเป็นน้ำมันนวดที่ดีและราคาไม่แพงสำหรับผิวทุกประเภท นอกจากนี้ยังสามารถผสมกับน้ำมันหอมระเหยต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การผสมกับน้ำมันลาเวนเดอร์อาจช่วยลดรอยแดงและการอักเสบของผิวหนังได้ ในขณะที่การผสมกับน้ำมันยูคาลิปตัสแล้วทาที่หน้าอกอาจช่วยลดอาการคัดจมูกได้
นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำมันร่วมกับเปเปอร์มินต์ กำยาน หรือน้ำมันมะนาวเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่น ต่อสู้กับสิว อาการปวดหัวจากความเครียด และอาการปวดข้อ เมื่อนวดลงบนผิว
วิธีการใช้งาน
วิธีใช้น้ำมันเมล็ดองุ่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น กระชับผิว และอื่นๆ:
- เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า — คุณสามารถใช้น้ำมันเมล็ดองุ่นเพียงอย่างเดียวเหมือนเซรั่ม หรือผสมสองสามหยดลงในโลชั่น/ครีมบำรุงผิวหน้าที่คุณชื่นชอบ ลองผสมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ เช่น ว่านหางจระเข้ เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำกุหลาบ คุณยังสามารถใช้น้ำมันเมล็ดองุ่นช่วยล้างเครื่องสำอางก่อนทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวหลังการบำรุงได้อีกด้วย
- ใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวกาย — บางคนชอบทาออยล์ขณะอาบน้ำหรือหลังอาบน้ำทันที ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เลอะเทอะหากใช้มากเกินไป อย่างไรก็ตาม แม้เพียงสองหรือสามหยดก็สามารถใช้เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งเป็นหย่อมๆ ได้
- เพื่อรักษาสิว — ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน แล้วทาน้ำมันเมล็ดองุ่นปริมาณเล็กน้อย (เริ่มต้นด้วยหลายหยด) อาจผสมกับน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยต่อสู้กับสิว เช่น กำยานหรือลาเวนเดอร์ คุณสามารถทิ้งน้ำมันเหล่านี้ไว้บนผิว หรือใช้เป็นมาส์กเนื้อหนาขึ้น ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว แล้วล้างออก
- สำหรับการนวด — อุ่นน้ำมันเล็กน้อยในมือของคุณก่อนใช้บริเวณใดบริเวณหนึ่งบนร่างกายหรือหนังศีรษะที่คุณต้องการ (หมายเหตุ: น้ำมันยังดีต่อเส้นผมด้วย เช่น ช่วยลดผมชี้ฟูและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ)
- เพื่อผลลัพธ์ในการกระชับผิว/ต่อต้านริ้วรอย — หยดผลิตภัณฑ์หลายๆ หยดให้ทั่วใบหน้าที่ทำความสะอาดแล้วก่อนนอน และหยดซ้ำอีกครั้งในตอนเช้าก่อนออกแดด วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้น้ำมันหอมระเหยและส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยต่อต้านริ้วรอย เช่น น้ำมันโจโจ้บา สารสกัดจากเมล็ดทับทิม และน้ำมันหอมระเหยกำยาน คุณยังสามารถหยดผลิตภัณฑ์บางๆ เบาๆ บริเวณรอยคล้ำใต้ตาเพื่อช่วยลดอาการบวมได้อีกด้วย
เวลาโพสต์: 11 ส.ค. 2566