น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตบริสุทธิ์เกรดบำบัด 100% ปี 2025
คุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหย
น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตมีกลิ่นที่สดชื่น เข้มข้น สีเหลืองอ่อนหรือสีทับทิมอ่อนๆ และมีความหนืดคล้ายน้ำ เช่นเดียวกับน้ำมันหอมระเหยจากส้มทุกชนิด ควรใช้น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตให้หมดภายใน 6 เดือนนับจากวันที่ซื้อ
แหล่งที่มา
เกรปฟรุตมีถิ่นกำเนิดในเอเชีย เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกขึ้นเอง ชาวยุโรปยุคแรกใช้เกรปฟรุตเป็นไม้ประดับและจัดสวน พบที่เกาะบาร์เบโดสในทะเลแคริบเบียน ในละตินอเมริกา ราวปี ค.ศ. 1750 หลังจากนั้นก็เริ่มมีการปลูกเชิงพาณิชย์อย่างช้าๆ โดยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา บราซิล และอิสราเอล ผลเกรปฟรุตเก็บจากต้นที่มีใบเรียบ สูง 10 เมตร ดอกสีขาว ผลใหญ่สีเหลืองอ่อน ต่อมน้ำมันหอมระเหยฝังลึกอยู่ในเปลือก และสามารถผลิตน้ำมันหอมระเหยได้เพียงเล็กน้อย
วิธีการสกัด
น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตผลิตจากเปลือกสดและผ่านกระบวนการสกัดเย็น ให้ปริมาณน้ำมันอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 1%
องค์ประกอบทางเคมี
ส่วนประกอบทางเคมีหลัก: ไพนีนหรือไพนีน ซาบินีน ไมร์ซีน ลิโมนีน เจอรานิออล ลิแนลูล ซิโตรเนลลัล เดซิลอะซิเตท และเทอร์พินีนหรือเทอร์พินีน
ผลการรักษา
①น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตมีฤทธิ์เพิ่มพลังและสามารถบรรเทาความเครียดและภาวะซึมเศร้าได้
②น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตช่วยให้ผิวมันสะอาด ปรับสมดุลผิวและเนื้อเยื่อ และยังช่วยรักษาสิวได้อีกด้วย น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตมักใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
③น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตมีวิตามินซีเข้มข้นสูง จึงมีประโยชน์อย่างมากต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันหวัดและไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
④น้ำมันหอมระเหยเกรปฟรุตเหมาะที่สุดสำหรับการสลายไขมันบริเวณสะโพกและขา อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักและขับปัสสาวะ อีกทั้งยังช่วยขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองและช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย
⑤มีประสิทธิผลในการรักษาอาการเมื่อยล้าและตึงของกล้ามเนื้อ





